การตั้งตารางเวลาทำงาน
วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการตั้งตารางเวลาทำงานอย่างละเอียด เจาะลึกแค่เรื่องนี้เรื่องเดียว!! เอาให้รู้ลึกถึงกึ๋น!! เพื่อให้ทำได้ เพื่อให้เข้าใจ เพราะการตั้งตารางเวลาที่ถูกต้องจะช่วยให้สามารถคำนวณเวลาการทำงานได้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น หมดปัญหาเรื่องรายงานบันทึกเวลาบางรายการไม่แสดง!!! ไม่เข้างานบ้างหละ ไม่ออกงานบ้างหละ!! ทั้งๆ ที่พนักงานก็สแกนนิ้วหรือสแกนหน้าตามปกติ!! เครื่องสแกนลายนิ้วมือ หรือ เครื่องสแกนใบหน้า ก็มีเสียงตอบรับว่า “บันทึกสำเร็จ” บทความนี้เราจะมาเรียนรู้กันแบบ รู้ให้ลึก รู้ให้จริง รู้เพื่อนำไปปรับใช้!!!
ก่อนหน้านี้เราได้แนะนำวิธีการตั้งค่าต่างๆ ของโปรแกรมคำนวณเวลา Premium Time ไว้แล้ว หากสนใจคลิ้กที่นี้ รีวิว การใช้งานโปรแกรมคำนวณเวลา Premium Time การตั้งค่า ระบบจะนำท่านไปสู่บทความดังกล่าว ซึ่งในบทความดังกล่าวได้แนะนำวิธีการใช้โปรแกรมตั้งแต่การเชื่อมต่อกับ เครื่องสแกนลายนิ้วมือ หรือ เครื่องสแกนใบหน้า ไปจนถึงการตั้งกะการทำงานเลยทีเดียว
เอาล่ะ!! เข้าเรื่องของเราเลยดีกว่า การตั้งตารางเวลาทำงาน เมื่อเราเปิดโปรแกรมคำนวณเวลา Premium Time แล้ว ให้คลิ้กที่ ตั้งเวลาทำงาน และเลือกข้อ 1 ตั้งตารางเวลา ขึ้นมา แต่... ก่อนที่เราจะลงมือดำเนินการขั้นต่อไป เราต้องทราบก่อนว่า (1)องค์กรของเราต้องการให้พนักงานสแกนวันล่ะกี่ครั้ง เช่น 2 ครั้ง คือเข้าเช้าและออกเย็น หรือ (2) วันละ 4 ครั้ง คือเข้าตอนเช้า ออกตอนเที่ยง เข้าตอนบ่ายและออกตอนเย็น เป็นต้น หากสรุปว่าสแกน 4 ครั้งต่อวัน (ไม่รวม ot) ให้เลือกที่ตั้งตารางการทำงาน 2 หัวข้อ คือ morning และ afternoon แต่ถ้าสแกนวันล่ะ 2 ครั้งก็ให้ตั้งตารางเวลาการทำงาน 1 หัวข้อ คือ day timeและเมื่อเราคลิ้กตามเมนูที่ได้แจ้งไปโปรแกรมจะแสดงหน้าต่างใหม่ขึ้นมาดังนี้
ให้เรากดเพิ่มตารางใหม่ หรือกดแก้ไขจากรูปแบบตารางเดิมที่มีอยู่ก็ได้ โดยแต่ล่ะช่องที่จะให้กรอกข้อมูลมีผลต่อการคำนวณเวลาทั้งสิ้น อย่าพึ่งเป็นกังวล!! ถ้าเรากำหนดผิดเวลาก็ไม่แสดงผล เราก็แค่มากำหนดใหม่ ^^” เรามาทำความเข้าใจหน้าที่และช่องที่ต้องกรอกข้อมูลกันดีกว่า เริ่มกันเลยที่..
หมายเลข 1 ชื่อตาราง เราตั้งเองได้ว่าอยากให้ตารางเวลานี้ชื่ออะไร เพื่อนำไปใช้ในการตั้งตารางการทำงานต่อไป
หมายเลข 2 เวลาเข้างาน ให้เรากรอกเวลาเข้างานขององค์กร ตามตัวอย่างคือเข้างาน 8.00 น. หากองค์กรเรามีเข้างาน 8.30น. หรือมีการทำงานเป็นกะเข้า 18.00 น. หรือเวลาอื่นก็ใส่ได้เลยที่ช่องนี้
หมายเลข 3 เวลาเลิกงาน ให้เราใส่เวลาที่เลิกงานเข้าไป เลิกงานนะ!! หากมี OT จะคิดหลังจากนี้ ซึ่งจะต้องตั้งค่าการคิด OTอีกครั้งว่าจะเริ่ม OT ตอนกี่โมงถึงกี่โมง ซึ่งเรามีบทความเขียนเกี่ยวกับการตั้งค่า OT อย่างละเอียดไว้ล่ะเพียงคลิ้กนี้เลย การคำนวณโอที
หมายเลข 4 และ 5 อนุญาตให้สายได้และออกก่อนได้ หากมีกำหนดให้เข้าสายได้หรือออกก่อนเวลาได้จากเวลาที่กำหนด 15นาที ก็ใส่ตัวเลขลงไปได้เลย ซึ่งหากเราใส่ข้อมูลในส่วนนี้ สมติว่า องค์กรกำหนดให้เข้างาน 8.00 น. อนุญาตให้สาย 15 นาที ดังนั้นหากพนักงานมาสแกนเข้างานตอน 8.12 น. ก็จะไม่แสดงรายงานว่าพนักงานมาสายนะ!!
หมายเลข 6 เริ่มเข้างานได้ หมายถึงพนักงานคนแรกที่มาสแกนน่าจะมาเวลาไหน สมมติ เข้างาน 8 โมงเข้า แต่พนักงานคนแรกมาสแกนน่าจะมาประมาณ 6 โมงเช้า ให้เราใส่ไปว่า 6.00 น. เพื่อให้โปรแกรมรับทราบข้อมูลว่าหากมีพนักงานมาสแกนช่วงเวลานี้ให้ถือว่าสแกนเพื่อเข้างาน
หมายเลข 7 เข้างานได้ภายในเวลา หมายถึงหากพนักงานมาสแกนสายกว่า 8.00 น. จะสามารถสแกนเพื่อเข้างานได้ภายในเวลาเท่าไหร่? เช่น 10.30 เพื่อให้โปรแกรมรับทราบว่าเป็นการสแกนเพื่อเข้างาน ซึ่งหากพนักงานท่านดังกล่าวมาสแกน10.30 จริง โปรแกรมก็จะแจ้งให้ทราบว่ามาสายกี่นาที?
หมายเลข 8 เลิกงานได้ตั้งแต่เวลา หมายถึงกำหนดว่าสามารถสแกนออกได้ก่อนเวลาเลิกงานตั้งแต่กี่โมง เช่นว่า เลิกงาน17.30 ให้สแกนเพื่อเลิกงานได้ตั้งแต่ 16.30 น. หากมีพนักงานมาสแกนช่วงเวลา 16.45 น. โปรแกรมก็จะแจ้งว่าพนักงานออกก่อนเวลากี่นาที? เป็นต้น
หมายเลข 9 เลิกงานได้ภายในเวลา ในข้อนี้คือการตั้งค่าให้กับโปรแกรมว่าพนักงานจะสแกนออกงานได้ภายในกี่โมง? ซึ่งไม่เกี่ยวกับการจ่ายโอที เพียงแค่เป็นการตั้งขอบเขตเวลาให้กับโปรแกรมเพื่อการประมวลผลเท่านั้น
ในทุกการตั้งค่าของตารางเวลาค่อนข้างสำคัญเพราะจะเกี่ยวข้องกับการสรุปออกรายงานคำนวณเวลา หากตั้งค่าไม่ถูกต้องการแสดงผลจะหายไปในบางหัวข้อ เช่น พนักงานมาสแกนเข้างานตอนเวลา 6.45 แต่เราตั้งค่าไว้ว่าเริ่มเข้างานได้ตั้งแต่เวลา 7.00 น. ในรายงานบางตัวก็จะบอกว่าพนักงานไม่สแกนเข้างาน เป็นต้น การตั้งค่าจะถูกต้องและเหมาะสมกับองค์กรของเรามากที่สุด เดียงแค่เราใส่ใจกับเวลาการสแกนของพนักงานและก็ตั้งค่าในรูปแบบการปฏิบัติงานจริง เพียงแค่นี้การใช้ประโยชน์จาก เครื่องสแกนลายนิ้วมือ หรือ เครื่องสแกนใบหน้า ก็จะสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแล้ว!!
เครื่องสแกนลายนิ้วมือ cmi681s, cmi682s, cmi683s เครื่องสแกนใบหน้า cmi f65s 700f, cmif65s 1500f และ cmi f63s เครื่องสแกนลายนิ้วมือ ci805u, ci806u, ci809u, cmi817u, cmi819u เครื่องสแกนลายนิ้วมือc806, cmi812, cmi800 เป็นต้น
เราอัพเดทบทความทุกวัน เพื่อหาเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับ เครื่องสแกนลายนิ้วมือ และ เครื่องสแกนใบหน้า มาให้ทุกท่านได้เรียนรู้ เพียงติดตามเรา หรือหากมีคำถามสามารถโทรหาเราได้ที่ 081-621-9066
หน้าที่เข้าชม | 62,627 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 35,894 ครั้ง |
เปิดร้าน | 7 ก.พ. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 17 มิ.ย. 2568 |